วันพุธที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2550

เพลงทหารราบ

เพลง ข้าคือทหารราบ
เปรี้ยง ๆ ๆ ๆ นี่คือเสียงของทูตมรณะ เมื่อเข้าปะทะข้าต้องเผด็จศึก ทหารราบเด็ดเดี่ยว เหิมฮึก เพราะเราฝึกชำนาญเพื่อผลาญปัจจา อ้อมกอดของข้าคือปืน เท้าข้ายืนในรองเท้าบู๊แสนสง่าบนแผ่นหลังเครื่องสนามนำพา บนหัวของข้าคือหมวกเหล็กออกประจัน นี่แหละคือทหารราบ ท่องเที่ยวปราบศัตรูทั่วเขตขัณฑ์ ถือกำเนินจากสีเขียวนักโรมรัน ศัตรูนั้นได้ยินนามครั้นทั่วแดน ทำให้ประชาชนนอนตาหลับ ทหารราบปราบปลื้มในใจ เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ พร้อมพลีชีพแทน ทั่วแดนข้าราชินีแห่งการรบ

เพลง มาร์ชทหารราบ

เหล่าทหารชำนาญชาญศึก หัวใจหาญฮึกก็คือทหารราบไทย แม้มีข้าศึกผนึกอยู่ไหนเราทำลาย รักษาพื้นที่ทั่วดินแดนไทยแสนไกลไม่อ่อนแอ ดุจดั่งหงส์ทนงศรีศักดิ์ เรื่องรบเรารักษ์ไม่รู้จักว่าแพ้ ให้ดินไทยพ้นภัยมารังแก เป็นราชินียุทธภูมิแก่เรา ( ซ้ำ )

เพลง มาร์ชราชินีแห่งการรบ

พวกเราเหล่าทหารราบ ถือปืนติดดาบปราบอริรัณ เดินเท้าเข้ารบประจัญ เป็นหลักและขวัญนำทหารทั้งสิ้น สืบกาลโบราณครั้งเก่า ชื่อนักรบเราก้องแผ่นดิน นเรศวรจอมทัพภูมินทร์ พระเจ้าตากสินองค์มหาราชเรา เป็นราชินีแห่งการรบครบครันทุกตอน ตะลุมบอนไม่เลือกเย็นร้อน ลำเนาคือวันใด ถิ่นทั่วไม่ว่าป่าเขา พร้อมที่เราจะเข้าบุกชิงชัย พวกเราเหล่าทหารราบ ศึกไหนปราบปรามคาบไป เทิดศักดิ์ศรีวีรชนไทยธำรง ชาติไว้ ศาสนาราชัน

เพลง เหล่าราบทหารกล้า

เหล่าทหารราบกล้าสมญาราชินีแห่งการรบ ยามรบเรารบนำหน้ารักษาพื้นปฐพี ทำลายไพรีทุกทิศทั่วไทยไม่หวั่นฟ้าดิน เหวธารเขาสูงป่าพงไพรี ทหารคือรั่วของชาติต่างยอมพลีหมดใจกาย ฝ่าฟันอันตรายสู้ตายทุกคน วีรกรรมเราทำเพื่อเกียรติประวัติ สละชีพเพื่อชาติมาหลายหน เทิดศาสนา มหาราชาวีรชน พวกเราทุกคนหวงแผ่นดินไทย ใกล้ไกลรักกัน รักกันจริงจังและจริงใจ ยามรบร่วมรบรานรอน ดัสกรจะต้องบรรลัย ยามสงบวันใดช่วยไทยพัฒนา (ซ้ำ)...

เพลง ทหารราบเกรียงไกร

ราชินีแห่งการรบจบแดนดิน อุทิศชีวินปกป้องผองไทย สมญานามแห่งความพร้อมเพรียงกายใจ ปวงวีรไทยเราสืบสานนานมา วีรกรรมเหล่าทหารราบแดนไทย กล้าหาญชาญชัยก้องไปทั่วฟ้า ผองเราเป็นหลักกองไทยนานมา นำทหารกล้าทุกเหล่าพร้อมเข้าประจันบาน เราจะรบเพื่อชาติ ศาสกษัตริย์ ยึดหลักยอมพลีเราโหมโจมตีทุกไพรีที่จะมีแหลกราน ทำการรบทุกกาลทุกถิ่นสถานกันดารได้ ลมฟ้าอากาศมิสามารถที่จะอาจกันได้ เราทหารราบเกรียงไกร สละชีพเพื่อไทยไชโย

ข้าฯ คือ ทหารราบ

ข้าฯ คือ ทหารราบ
ข้าฯ ถือกำเนิดจากสีเขียวขจีของสนามฝึกนานา ทุ่งหญ้าป่าเขา และจากกลิ่นสาบเหม็นของเลนตม
อ้อมกอดของข้าฯ คือปืนเล็กยาว บนหัวของข้าฯ คือหมวกเหล็ก แผ่นหลังของข้าฯ แบกเครื่องสนามอันหนักอึ้ง เท้าทั้งสองของข้าฯ อัดแน่นในรองเท้าบู๊ต
ดนตรีของข้าฯ คือเสียงปืน มหรสพของข้าฯ คือละครจากชีวิตจริงของทุกๆฉากแห่งสมรภูมิ
ข้าฯ คือผู้สืบสายโลหิตแห่งนักรบดึกดำบรรพ์ โดยการเข้าประจัญบานด้วยพลังในกายของข้าฯ ข้าฯคือผู้เผด็จศึกในวันนี้และขีดเส้นให้แก่ประวัติศาสตร์ของชาติพันธุ์ทั้งมวลในวันพรุ่ง
ยามข้าฯ ย่างกรายไปที่ใด ผู้คนนับแสนนับล้านต่างเงี่ยสดับฟังเสียงฝีเท้าของข้าฯ ประหนึ่งไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินคอยฟังข่าวจาก "ราชินีแห่งสนามรบ" ผู้ไม่เคยเหน็ดเหนื่อยในงานท่ามคาวเลือดและความตาย
ข้าฯ คือฑูตมรณะ ผู้ไม่เคยขาดระยะในการสร้างความสราญใจ และความหดหู่ใจ ให้แก่มนุษยชาติ ข้าฯ ทำให้คนนับล้านนอนตาหลับ และคนอีกนับล้านต้องตระหนกอกสั่นด้วยลีลาอันเดียวกัน
ข้าฯ คือ ทหารราบ ผู้ไม่เคยอยู่หลังใครในทุกยุทธภูมิ และไม่เคยหยุดหย่อนต่อการโผเข้าหาความตาย ประหนึ่งหญิงสาวโผเข้าหาอ้อมกอดของชายหนุ่ม
ข้าฯ คือ ทหารราบ